Minkyblueeyes บล็อคคุณพ่อลูกอ่อน

Wednesday, January 31, 2007

รูปน้องวินนี่ ชนัญชิดา ตอนเป็นสาว

จากเสียงเรียกร้องที่แสนจะหนาหู

วันนี้มิ้งค์กี้บลูอายส์แอบเจียดเวลา(งาน)

มาอัพบล็อค ลงรูปน้องวินนี่ให้แฟนๆได้ยลกัน

คอเล็คชั่นนี้เป็นรูปน้องวินนี่ตอนโตเป็นสาวแล้วนะครับ

หนุ่มๆไม่ต้องมาทำน้ำลายหก (โดยเฉพาะกริดยิ้มแย้ม)

เชิญทัศนา.....


เปิดตัวด้วยรูปความสามารถใหม่....คว่ำเองได้แล้ว ^__^


ให้ดูซะ 2 แอ็ค


ต่อด้วยภาพสาวในชุดสายเดี่ยวเห็นเนินนมสุดเซ่ะซี่ :P


อันนี้ชุดออกงาน อาเมเม่ซื้อให้ ^^ (ตอนนี้ใส่ได้แว้วววว)


เห็นตอนสวยๆแล้วให้ดูตอนเล่นน้ำลายมั่ง..อิอิอิ


เบิ้ลให้สองรูปเลย...จะได้ไม่มีหนุ่มมาจีบ :P


ตอนนี้คุณพ่อกะคุณแม่ช๊อบ..ชอบรูปนี้อ่ะ ^__^



พอแระ....งานยุ๊ง...ยุ่ง...ไว้ว่างๆจะมาอัพอีก

คิดถึ๊ง...คิดถึงทู๊กกกกคนเยย :D

Wednesday, January 24, 2007

รวบยอด!!

ก็ตั้งแต่กลับจากลาวมา นี่ก็เกือบ 1 อาทิตย์แล้ว

เล่าถึงภาระกิจที่ สปป.ลาวซักนิดก็แล้วกัน :D

คือมิ้งค์กี้บลูอายส์ไปลาวด้วยกิจธุระอย่างนึง

นั่นก็คือไปไซต์งานก่อสร้างเขื่อนน้ำงึม 2

ขอกล่าวถึงโครงการนี้ซักเล็กน้อยว่า

เขื่อนน้ำงึม 2 นี้เป็นเขื่อนผลิตกาะแสไฟฟ้าพลังน้ำ


ที่บริษัทเอกชนของไทยแห่งหนึ่งไปขอสัมปทานก่อสร้าง


และผลิตกระแสไฟฟ้าเข้ามาขายให้กับพวกเราชาวไทย

ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั่นเองครับ ^^

เรื่องนี้เองก็มีประเด็นที่น่าจะทำให้เราฉุกใจคิดซักนิดนะครับว่า

วันนี้การเพิ่มขึ้นของประชากรประเทศเรา

มันรวดเร็วซะจนต้องไปอาศัยทรัพยากรนอกประเทศ


เพื่อนำมาผลิตไฟฟ้าซึ่งเป็น 1 ในปัจจัยพื้นฐานที่เราทุกคนต้องใช้


ซึ่งแน่นอนว่าคนภาคอิสานที่ต้องซื้อไฟฟ้าใช้จากลาว


วันนึงก็คงต้องจ่ายค่าไฟที่แพงขึ้นด้วย....

พอเห็นเรื่องที่เกิดขึ้นชัดๆแบบนี้ ก็อดห่วงคนรุ่นหลังๆไม่ได้

(พอมีลูกแล้วก็จะคิดเรื่องแบบนี้บ่อยหน่อยอ่ะ ^^'')

ก็เขียนทิ้งไว้แค่นี้แล้วกัน...ไปคิดกันต่อเล่นๆเอาเอง...

ดูรูปที่ลาวดีกว่าเนาะ ^__^



นี่คือสภาพไซต์งานที่ไปมาครับ....กันดารสุดๆ
หนาวก็หนาว แถมลมก็แรง แต่แดดแผดเผาเปรี้ยงๆ ผิวเสียหมดเลย T_T




วิศวกรหนุ่ม(พุง)ใหญ่ไฟแรงตั้งใจทำงานครับ



นี่ก็(ตูด)ผู้ร่วมงานในทริปนี้ครับ ^^


ส่วนงานที่มิ้งค์กี้บลูอายส์ไปทำก็คือ...ไปออกแบบถนน

ที่เป็นทางเข้าโรงไฟฟ้า (POWER HOUSE) นั่นเองครับ



+++++++++++++++++++++++++++++++++



ต่อด้วยเรื่องที่สองกันเลยครับ....

ก็อย่างที่บอกในชื่อเรื่องวันนี้ว่าเป็นการ "รวบยอด" ไงครับ

เรื่อง "ดา...ดา และ ดา" ครับผม ^^

ไม่ต้องงงกันครับ...

คือคุณปุ้ยไประลึกได้ว่าตอนที่ตั้งชื่อจริงให้น้องวินนี่

เมื่อคำนวณดูตามหลักเลขศาสตร์แล้ว

มันไม่เป็นมงคล ประกอบกับชื่อของคุณปุ้ยเองก็ด้วย

เลยเกิดอารมณ์อยากจะเปลี่ยนชื่อตัวเองและชื่อลูกขึ้นมาซะงั้น

ตอนนี้น้องวินนี่ที่มีชื่อเดิมว่า ด.ญ.ภาริชญา

จะต้องเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น ด.ญ. ชนัญชิดา (ดาที่ 1) แล้วครับ

ส่วนคุณปุ้ยเองก็ไปปิ๊งชื่อใหม่ว่า.... สุภรดา (ดาที่ 2)

อ่านว่า สุ-พะ-ระ-ดา นะครับ

ส่วนดาที่ 3 จะเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่ นายกฤษดา คนนี้นี่เองครับ

พอมาดูๆแล้ว...ชื่อใหม่คุณภรรเมีย และคุณลูกฟังดูไฮโซกันทั้งนั้น

ชื่อ กฤษดา เลยฟังดูเชยๆไปเลย...ไหนๆก็เชยแล้ว

ขอเปลี่ยนมันซะเลยดีกว่า...เอาแบบให้มันสุดกู่ไปเลยแล้วกัน

ประชดลูกเมีย...อยากมีชื่อหรูๆกันดีนัก

มิ้งค์กี้บลูอายส์เลยประกาศลั่นบ้านว่า....ต่อไปนี้จงเรียกข้าว่า....

"ไอ้เท่ง"

ย่อมาจาก....เท่งทึง หรือว่า ม่องเท่งก็ได้ :P


**************************************


ปล.ที่จริงว่าจะอวดรูปน้องวินนี่คอเล็คชั่นใหม่

ประจำเดือนมกราคม 2550 แต่ไม่โหลดดีกว่า...

ขี้เกียจแล้วอ่ะ...ดูรูปคุณพ่อลูกอ่อนไปก่อนนะครับ


Saturday, January 13, 2007

เกาะกระแส TAG!!

แหมๆ เห็นฮิตกันจัง...ไอ้แทคเนี่ย

ไปที่ไหนๆก็เห็นเค้า tag กัน

ก็พลอยนึกในใจว่า เอ..จะมีใครแทคมิ้งค์กี้บลูอายส์มั่งมั๊ยน๊า??

ซึ่งก็มาค้นพบความจริงข้อนึงในภายหลังว่า...

ที่จริงแล้ว...มีเพื่อนๆอยู่หลายคนเหมือนกันที่คิดจะแทคมิ้งค์กี้บลูอายส์

แต่มิ้งค์กี้บลูอายส์ได้แสดงความดีใจจนออกนอกหน้า

ป่าวประกาศไปก่อนซะทั่วเลยว่าโดน พี่ตุ๋ม แทคมาแล้ว

ทำให้หลายๆคนที่ตั้งใจจะแทคมิ้งค์กี้บลูอายส์เปลี่ยนใจไปแทคคนอื่น

จากการนี้เอง....นอกจากนิยามของการแทคแล้ว...

มิ้งค์กี้บลูอายส์ยังได้เรียนรู้ข้อเท็จจริงอีกถึง 2 ข้อด้วยกัน

ซึ่งนั้นก็คือ...

1.ใครที่โดนคนอื่นแทคแล้ว...ถ้าเรารู้....เราจะไม่แทคคนนั้น

และ

2.ถ้าโดนแทคแล้วเราไม่รีบแทคต่อ...เราจะยิ่งเหลือคนให้แทคน้อยลง

กรณีหลังนี่คงจะสำหรับคนที่พรรคพวกน้อย(เพื่อนไม่รัก)อ่ะนะครับ

อย่ากระนั้นเลย...เนื่องจากดองบล็อคไว้ซะนาน แถมอาทิตย์หน้า

มิ้งค์กี้บลูอายส์จะโกอินเตอร์ไปทำงานเมืองนอก (สปป.ลาว)

เอวัง....จึงขอเริ่มการแทคต่อด้วยประการฉะนี้

เริ่มจากนิยามของการแทค (ที่ลอกเค้ามา) <--- ในวงเล็บนี้ก็ลอกเค้า :P

"คือการบอกเรื่องของตัวเองที่คนอื่นไม่รู้มา 50 ข้อ"

เอ่อ....มากไปป่ะครับ...ลูกผมแก่ยังเล่าไม่หมดเลย -_-''

ขอต่อเหลือ 5 ข้อละกัน...แค่ 5 ข้อก็นึกยากแล้วนะ



1. มิ้งค์มีรอยแผลเป็นบนหน้าผาก เป็นแนวเส้นตรงในแนวดิ่ง


ผ่านแนวศูนย์กลางของร่างกายพอดี๊..พอดี เป็นรอยเย็บ 8 เข็ม

เกิดจากการตกเก้าอี้สมัยอายุประมาณ 3 ขวบ ซึ่งมิ้งค์กี้บลูอายส์

ก็จำฝังหัวมาตลอดว่า เกิดจากอุบัติเหตุที่โดน น้องเฟอร์ เบียดตกจากเก้าอี้

ขณะที่กำลังช่วยแม่ล้างผักเตรียมทำอาหาร (ปีนเก้าอี้ไปบนอ่างเพื่อล้างผัก)

ซึ่งเวลาใครถามเรื่องแผลเป็นบนหน้าผากมิ้งค์กี้บลูอายส์ก็จะตอบแบบนี้

แต่ความจริงที่เพิ่งรู้เมื่อไม่นานมานี้เองก็คือ...มิ้งค์ซุ่มซ่ามตกลงมาเองง่ะ

ไม่ได้โดนน้องเฟอร์เบียดตกเก้าอี้ลงมาแต่อย่างใด :P

โทษทีนะเฟอร์..ทีตกเป็นจำเลยบาปมา 25 ปี (-/-)


2. อันนี้แอบลอกมาจาก น้องเมเม่ เรื่อง First KISS อ่ะ *_*

อายจังที่จะบอกว่าตอนนั้นยังเรียนหนังสืออยู่เลย

แล้วก็นึกสงสัยมาตลอดว่าไอ้จูบแรกเนี่ยมันจะรสมะนาวจริงป่าววะ

ครั้งแรกที่จ๊วบบบบ...ตอนนั้นก็ยังพยายามเปิดประสาทการรับรสเต็มที่

ประมาณว่า "เอาล่ะเว้ย...จะได้รู้กันล่ะทีนี้...หึหึหึ" (-,,-)

แล้วคำตอบที่แสนจะทำร้ายหัวใจวัยรุ่นก็คือ...

---ไม่เห็นจะมีรสอะไรเลย--- -_-'

แต่ก็เพลินดีนะครับ :P

น้องๆอย่าเลียนแบบนะครับ...


3. มิ้งค์กี้บลูอายส์เคยทะเลาะกับป๊าตอนสมัยประถมด้วยล่ะ...

จะว่าไปที่จริงมันก็ไม่ใช่ทะเลาะหรอก...เพราะมิ้งค์ไม่ได้ตอบโต้

แต่จำได้ว่าโดนป๊าตีไปหลายที...แล้วต่างคนก็ต่างงอนกัน...

สุดท้ายเลยไม่พูดกันไปเลยประมาณ 1 ปี...แบบว่าป๊าเดินมาห้องที่มิ้งค์อยู่

มิ้งค์ก็จะเดินหนี...พอมิ้งค์เดินไปห้องที่ป๊าอยู่..ป๊าก็เดินหนีเหมือนกัน

บรรยากาศในบ้านมาคุสุดๆ ไม่น่าอยู่เลย...

ทำให้ความสัมพันธ์ของมิ้งค์กี้บลูอายส์กับป๊าไม่ดีตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ความจริงตอนนี้ก็ดีแล้วแหละ...เพราะหลังจากตอนนั้นม๊าก็ชวนไกล่เกลี่ย

แล้วก็ให้มิ้งค์ไปขอโทษป๊า...แล้วเราก็คุยกัน....แต่มันก็ไม่เหมือนเดิมง่ะ

เลยสาบานกับตัวเองว่า...เรื่องนั้นจะเป็นบทเรียนให้มิ้งค์

เพื่อคอยเตือนให้มิ้งค์รู้ว่ามิ้งค์จะสานสัมพันธ์ในครอบครัวยังไง


4. เคยบอกไว้ในบล็อคตอนเก่าๆตอนนึงว่าเวลาคุยกับคุณปุ้ย

สรรพนามที่ใช้เรียกกันเราจะใช้สรรพนามบุรุษที่ 1 ว่า "แฟน"

และใช้สรรพนามบุรุษที่ 2 ว่า "น้องแฟน" ยกตัวอย่างเช่น

+++++++++++++++++++++++++++


มิ้งค์ : วันนี้น้องแฟนจะไปว่ายน้ำมั๊ยคะ?เดี๋ยวแฟนไปส่ง

คุณปุ้ย : ไปค่ะ...แล้วน้องแฟนจะไปส่งแฟนกี่โมงคะ?

มิ้งค์ : แล้วน้องแฟนอยากไปตอนไหนล่ะ?แฟนออกตอนไหนก็ได

คุณปุ้ย : ส่งแฟนแล้วน้องแฟนจะไปไหนต่อล่ะ??

+++++++++++++++++++++++++++

ประมาณนี้อ่ะครับ...จากตัวอย่างข้างต้น

บางท่านจะพบว่าอาจทำให้คู่สนทนางงเองได้หากหัวข้อ

ของการสนทนานั้นมีความสลับซับซ้อนกว่านี้...

ด้วยเหตุนพักหลังๆเพื่อไม่ให้สับสนเวลาคุยกัน

มิ้งค์กี้บลูอายส์เลยเรียกคุณปุ้ยว่า "น้องอู๊ด" แทนครับ

แต่อนิจจา...เดี๋ยวนี้คุณปุ้ยก็เรียกมิ้งค์ว่า "น้องอู๊ด" เหมือนกันง่ะ

เพราะฉะนั้น..ตอนนี้เราก็เลยยังงงๆเวลาคุยกันอยู่อ่ะครับ :P


และในที่สุดก็มาถึงข้อสุดท้ายซะที :)

เรื่องสุดท้ายเกี่ยวกับมิ้งค์กี้บลูอายส์ที่คนอื่นไม่รู้

มิ้งค์กี้บลูอายส์ขอมอบเป็นวิทยาทานแก่แฟนๆก็แล้วกันนะครับ

นั่นก็คือ....ข้อ 5.

"เคล็ดลับความงามของมิ้งค์กี้บลูอายส์" ครับผม

เห็นมิ้งค์อย่างงี้...บางทีมิ้งค์ก็สำอางค์เหมือนกันนะครับ...

ครั้งนึงสมัยเด็กๆ มิ้งค์อ่านการ์ตูนเรื่อง ข้าชื่อโคาทโร่

มีเพื่อนพระเอกคนนึงหัวเหม่งมีนามว่า เท็นโคจิ เทรุฮิโก

ชอบฝานมะนาวมาโบ๊ะหน้า....เพื่อให้หน้าเด้งใสปิ๊ง

มิ้งค์กี้บลูอายส์ที่แสนจะไร้เดียงสา(แต่อยากหล่อ)ก็ไปเชื่อการ์ตูนง่ะ

กลับมาบ้านมาทำมั่ง...น้ำมะนาวเข้าตาแสบเลยเลิกไปเลย

ดังนั้จนป่านนี้เลยยังไม่รู้เลยว่าที่จริงแล้วมันจะได้ผล

กับสภาพหนังหน้าอย่างมิ้งค์กี้บลูอายส์รึเปล่า??

สูตรนี้ไม่หวง..ใครลองไปทำดูก็ได้นะครับ...

เวิร์คไม่เวิร์คก็บอกกันมั่งล่ะครับ ^^''



+++++++++++++++++++++++++++++++



เอาล่ะ....เมื่อครบ 5 ข้อแล้วก็เข้าสู่ขั้นตอนการ TAG ต่ออีก 5 คน

คนที่เล็งๆไว้หลายๆคนก็โดนไปแล้ว...งั้นมิ้งค์กี้บลูอายส์ขอเสนอดังนี้ครับ



1. น้องต๊ะ ที่เคยอยู่บ้านสตอรี่ไทยปัจจุบันไม่มีตังจ่ายค่าเช่าแล้วครับ


2.นายโม รู้จักกันที่หมู่บ้านสตอรี่ไทยเช่นกันครับ ^^


3.น้องฝน รู้จักที่ ST. อีกแล้วไดฯน้องคนนี้ colorful ที่สุดตั้งแต่อ่านมาเลยอ่ะ


4. น้องต่าย รู้จักที่ ST.(อีกแล้ว ^^'') ย้ายบ้านไปแล้วแต่ยังตามอ่าน


5. เส่งฮะ เพื่อนสมัยมัธยม 1 ใน 5 สมาชิก KODOMA DRAGON


การแทคนี่ทำให้เราต้องอัพบล็อคยาวๆเนาะครับ ^^''

ขอบคุณที่ตามอ่านจนจบครับ...มิสๆๆ จุ๊บๆๆ


ปล.ขออภัยท่านที่โดนแทคที่มิ้งค์กี้บลูอายส์ไม่ได้

ขออนุญาตไว้ก่อนนะครับ...หวังว่าคงไม่เป็นไรนะครับ


Sunday, January 07, 2007

น้องหมาตามมาหา

อย่างที่บางท่านได้ทราบแล้วว่าเมื่อต้นปีนี้

วันแรกของการทำงานในศักราชใหม่...

มิ้งค์กี้บลูอายส์ซวยรับปีใหม่ด้วยการขับรถชนสุนัขตาย

หน้าโรงเรียนอนุบาลตอน 8 โมงเช้า T_T

ในวันนั้นเอง...มิ้งค์กี้บลูอายส์ได้แก้เคล็ดโดยการไปถวาย

สังฆทานและกรวดน้ำไปให้คุณสุนัขโชคร้ายตัวนั้น



(ขอสารภาพกับกริิดว่า...ตอนนั้นเรานึกถึงเรื่องที่กริดเล่าให้เราฟัง

เรื่องเตี่ยแกด้วยแหละ...แล้วน้องวินนี่ก็เกิดปีจออ่ะ)



เย็นๆวันนั้นคุณปุ้ยโทรมาถามว่าเป็นสุนัขสีอะไร?

มิ้งค์กี้บลูอายส์ก็เล่าไปว่าเป็นสุนัขสีขาวสลับดำ

คุณปุ้ยบอกว่ามีเกจิ(ไม่สามารถเอ่ยนามได้)บอกว่าต้อง

ซื้อผลไม้ไปทำบุญให้เค้านะ....จนเวลาล่วงเลยมา

วันนี้ก็
4-5 วันเข้าไปแล้ว...มิ้งค์กี้บลูอายส์ก็ยังเพิกเฉย...

มิได้ทำตาม
คำแนะนำ(ที่จริงคือคำสั่ง)แต่อย่างใดไม่

เมื่อเช้านี้หลังจากตื่นด้วยเสียงน้องวินนี่ตอน 6 โมงเช้า

มิ้งค์กี้บลูอายส์ก็ย้ายกลับเข้ามานอนในห้อง...

(ช่วงนี้แยกห้องนอนเพราะเป็นหวัด กลัวน้องวินนี่ติด)

หลับต่อซักพักก็ฝันครับ...ฝันแบบว่าดีเทลเยอะสุดๆ

ไม่ขอเล่าในที่นี้แต่เมื่อเช้าเล่าให้คุณปุ้ยฟังไปแล้ว...

หัวเราะกันท้องคัดท้องแข็ง :D

แต่เนื้อหาช่วงนึงของในฝัน...

มิ้งค์กี้บลูอายส์ฝันว่าโดนสุนัขรุมกัดง่ะ


มีทั้งลูกโกลเด้น รีทรีฟเวอร์ แล้วก็กองทัพพูเดิ้ลทอยง่ะ...

ไม่รู้ทำไมมันฝันคิกขุจัง...แต่ในฝันก็ได้เกิดการต่อสู้ที่ดุเดือด

เลือดพล่านมากๆ...มากจนไม่สามารถบรรยายเป็นตัวอักษร


ให้สาธารณชนอ่านได้เลย...

แถมยังมีโดนงูกัด-ตะขาบต่อยด้วยอ่ะ....ตัวเป้งๆเลยด้วย....

อาจจะเพราะก่อนหลับเปิดดูข่าวว่ามีการค้นพบงูสองหัว

เลยเก็บไปฝันเป็นตุเป็นตะ .... :P

แล้วอีกอย่างนึง....

นี่ถ้าไม่รักกันจริง แล้วเห็นว่าไม่ได้อัพบล็อค(เอง)มานานแล้ว

ไม่บอกหรอกนะเนี่ย....เพื่อเป็นการไถ่โทษ...

มิ้งค์จะแอบกระซิบบอกให้ก็ได้ว่า.....

.....


.......


....ว่าในภาพข่าวเมื่อเช้านี้อ่ะ....


ตอนที่ทีวีซูมภาพเจ้างูสองหัวตัวนั้นอ่ะ...

มิ้งค์เห็นเลขบนท้ายทอยงูด้วยนะ....อยากรู้ป่ะ???

หอ-โอะ-กอ-หก-ซอ-อี่-สี่.....6-4 ครับผม




จอ-โอะ-บอ-จบ (แบบห้วนๆ)


Thursday, January 04, 2007

++ ปีใหม่ ปีมิ้งค์++

ปีใหม่นี้.....

เปิดศักราชมา...มิ้งค์ก้อยุ๊ง ยุ่ง ตามเคยล่ะครับ....

ปีใหม่...เดี๋ยวมิ้งค์นึกก่อนว่ามิ้งค์มีอารายใหม่ๆบ้างน๊า???

อ่อ...มิ้งค์ไปตัดผมมาใหม่ครับ...หน้าตาที่ดูดีอยู่แล้ว ยิ่งดูดี๊ ดูดี แถมยังหน้าเด็กลงด้วยนะ

เรียนเชิญ พ่อ แม่ พี่น้อง ผองเพื่อน มาพิสูจน์ได้ครับ

เฮ้อ...แล้วปีใหม่นี้มิ้งค์มีเรื่องเศร้าด้วยล่ะ

พอเปิดมาทำงานวันแรก....ขับรถชนน้องม๋าข้างถนนง่ะ..น่าจะคาที่....หดหู่ใจจัง...เลยไปทำสังฆทาน....ที่วัดแถวบริษัทเรียบร้อยแล้วครับ...

แถมต่อด้วย....มิ้งค์ป่วย..จากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยเช่นนี้...ร้อนๆ หนาวๆ ร้อนๆๆ ร้อนๆๆๆ ร้อนมั่กๆ

ทำให้มิ้งค์เกิดอาการคลื่นเหียน เวียนหัว จะอาเจียน บวกด้วยไอแค่กๆ และเจ็บคออย่างรุนแรง...

การเปิดศักราชไปทำงานในวันแรกของมิ้งค์ผ่านไปด้วยความยากลำบาก...

และแล้ว.............

มิ้งค์กี้บลูอายส์ก้อลั่น ลั๊น ลา ลา ลา ลา ลา ลา ลา ลา

ลาครึ่งวันครับ....ไปอ้อนเมีย และน้องวินนี่ที่บ้านดีก่า แหะๆๆๆ

แฟนๆได ไม่ต้องเป็นห่วงครับ....ตอนนี้...ดีขึ้นมากแล้วอ่ะ...

ส่วนเรื่องง๊าน งาน งาน และงาน....

ยังเยอะแยะ มากมาย เช่นเดิม ซึ่งให้มิ้งค์ทำเสร็จเท่าไหร่งานก้อไม่หมดไปแน่ๆครับ

เพราะประเทศไทยของเรานี้...จะสร้างถนนเพิ่มขึ้นอีกเพียบเลย....อุ๊บซ์

อ่อ....แฟนๆไดของมิ้งค์กี้บลูอายส์ที่คิดถึง "น้องวินนี่"

ตอนนี้น้องวินนี่สวยวัน สวยคืน เซะซี่ อารมณ์ดี น่ารักขึ้นทุกวั๊น วัน....

อีก 1 อาทิตย์น้องวินนี่ก้อครบ 4เดือนแล้วนะครับ

แฟนๆที่ยังไม่ได้มาเยี่ยมน้องวินนี่ หรือฝากของขวัญให้...

มิ้งค์ถือโอกาศทวงคับ........อิอิ :P