Minkyblueeyes บล็อคคุณพ่อลูกอ่อน

Monday, October 30, 2006

อัพเดทกันซะหน่อย

หลังจากที่พี่ที่ทำงานคนนึงลาออกไปเมื่อ 3-4 เดือนก่อน

ได้ทิ้งขี้กองโตไว้ให้คนที่ยังอยู่...และคนรับขี้กองนั้นเต็มๆ

ก็คือมิ้งค์กี้บลูอายส์คนนี้เองครับ T_T


เรื่องมีอยู่ว่า...บริษัทที่
มิ้งค์กี้บลูอายส์ทำงานอยู่นั้น

เป็นบริษัทที่ปรึกษาทางด้านวิศวกรรมชั้นนำของประเทศ

(หุหุหุ..แอบโม้นิดนึง :P) งานที่ BU.ที่
มิ้งค์กี้บลูอายส์ทำอยู่

จะเป็นงานในส่วนของการออกแบบเกี่ยวกับด้านวิศวกรรมการขนส่ง

(Transportation Engineering) อาทิเช่น


การออกแบบถนน การปรับปรุงซ่อมแซมถนนเดิม


การศึกษาและวางแผนด้ายงานจราจร การขนส่ง logistic

อะไรเทือกๆนี้แหละครับ...ลูกค้าโดยมาก 95% ก็คือหน่วยงาน

ต่างๆของภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็น กทม. , กรมทางหลวง , สนข. ฯลฯ

งานที่มิ้งค์รับช่วงต่อมาจากพี่คนที่ลาออกไป...ซึ่งต่อไปนี้จะขอเรียกว่า

"พี่จ." คืองานในส่วนที่บริษัทรับจ้าง กทม.ในการออกแบบถนน


และทางยกระดับต่างๆซึ่งออกแบบไว้ตั้งแต่ปีมะโว้...ร่วมๆเกือบ 10 ปี

ในเวลานั้นกทม.มีโครงการจะก่อสร้างทางแยกต่างระดับต่างๆ

แต่เนื่องด้วยว่าประเทศไทยของเรายากจน...และอาจจะเกี่ยวกับ

เหตุผลทางการเมืองบ้าง...จึงทำให้กทม.ไม่มีงบประมาณจะนำมา

ก่อสร้างได้ตามแผนงานที่วางไว้...รายงานต่างๆและแบบรายละเอียด

ที่ออกแบบเอาไว้จึงถูกนำไปซุกไว้ในที่ปลอดภัยที่ใดที่หนึ่งใน

สำนักออกแบบของกทม. จนกระทั้งปีพ.ศ.นี้ ผู้ว่า อ.

ที่ได้สัญญิงสัญญากับพวกเราประชาชนชาวกทม.เอาไว้ว่า

จะแก้ไขปัญหาการจราจรอย่างเร่งด่วนที่สุด

file ลับต่างๆที่เคยหมกๆเอาไว้จึงถูกนำออกมาปัดฝุ่น

จัดหาลบประมาณมาเตรียมการก่อสร้าง...แต่เวลาเปลี่ยน..


อะไรๆก็เปลี่ยน...สภาพทางกายภาพในช่วง 10 ปีในกทม.

มันเปลี่ยนแปลงไปไวปานใด...มิ้งค์กี้บลูอายส์ไม่ต้องบอก


ก็คงจะพอเดาๆกันได้...ไอ้ที่เคยออกแบบเอาไว้

จึงต้องกระเด้งกลับมาหาผู้ออกแบบให้ช่วย review ให้ใหม่

ซึ่งก็คือบริษัทที่มิ้งค์กี้บลูอายส์ทำอยู่นั่นเอง และพี่จ.ก็ไม่

อยู่แล้วด้วย...
มิ้งค์กี้บลูอายส์เลยต้องมานั่งเทียนแก้แบบให้

เจ้าของงานใหม่นั่นเอง (เอ่อ...ที่บอกว่านั่งเทียนน่ะ ล้อเล่นนะ)

เมื่อกี้ก็โดนใช้แรงงาน..ไปเคลียร์โต๊ะให้พี่จ.เพราะว่าต้อง


เลือกเอกสารที่จำเป็นต้องใช้ในการ review แบบให้ลูกค้า

แมร่ง...จัดไปจัดมาได้ 20 ลังโตๆ คลุกกองฝุ่นอยู่เกือบครึ่งวัน

ตอนนี้เสร็จแระ...เหนื่อยๆ เลยมานั่งอู้งานอัพบล็อคบ่น

ไปตามภาษาคนกำลังเห่อลูกสาว :D


อ๊า....คิดถึงน้องวินนี่จัง...เดี๋ยวก็กลับบ้านแระ

ก่อนไป...เอารูปลูกสาวมาอวดอีกดีกว่า (^o^)/




ภาพแอบถ่ายตอนหลับ
เห็นมะว่าน้องวินนีี่แอบเซ่ะซี่นิดๆใส่เสื้อเอวลอย




ส่วนรูปนี้ซุมให้เห็นเรียวปากเซ่ะซี่อีกเช่นกัน...
ทำปากเจ่อเผยอนิดๆให้หนุ่มๆน้ำลายไหล :D~~


อิอิอิ...ไปล่ะคร้าบบบบ

Tuesday, October 24, 2006

อยากจะเอาน้องสาวมาเผาให้เกรียม

จั่วหัวไว้ก่อน...ช่วงนี้งานเยอะ...

ไว้จะมาเผาให้ฟัง...ฮี่ๆๆๆ


++++++++++++++++++++++++


มาละ....ให้รอกันตั้งนาน :P

แต่มันนานมากจนลืมไปแล้วอ่ะว่าจะเล่าเรื่องอะไร

ดังนั้น...เอาลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนมาเผาก่อนดีกว่า

นี่ถ้าบล็อคนี้อยู่คู่ฟ้าเมืองไทยไปจนน้องวินนี่อ่าน

หนังสือออก น้องวินนี่จะน้อยใจมั๊ยเนี่ย

อยู่ดีๆคุณพ่อมิ้งค์กี้บลูอายส์ก็เอาน้องวินนี่มาเผา

งานนี้อาจจะทำให้ลูกสาวขายไม่ออก...

แต่ป่าป๊ายอมครับ...น้องวินนี่จะได้อยู่กับป่าป๊า

ไปตลอดชีวิต :P ฮี่ๆๆ

เรื่องมีอยู่ว่า...น้องวินนี่ เป็นเด็กขี้ร้อน+ขี้ตกใจ

อะไรนิดอะไรหน่อยก็ทำให้น้องวินนี่จะสะดุ้งตื่นได้ง่ายๆ

ล่าสุด...จากการแอบเฝ้าสังเกตพฤติกรรมของน้องวินนี่

พบว่าแค่น้องปวดฉี่หรือว่าผ้าอ้อมเปียกแค่นิดเดียว

น้องก็จะตื่นแล้ว...หรือแม้กระทั่งตดปู๊ดๆ

น้องวินนี่เป็นเด็กเปิดเผย จริงใจ

ดังที่โบราณว่าไว้ว่า......

"คบคนให้ดูหน้า ซื้อผ้าให้ดูเนื้อ เด็กดีจริงใจจะตดเสียงดัง"

น้องวินนี่จะตกใจตื่นกับเสียงตดของตัวเองครับพี่น้อง

แต่ทฤษฎีนี้ยังไม่ได้ผ่านการพิสูจน์ว่า...

ความจริงแล้ว...น้องสะดุ้งตื่นเพราะเสียง

หรือมลพิษทางอากาศกันแน่...

ซึ่งคณะสังเกตุการณ์ จะเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด

และนำมารายงานให้ทราบในโอกาสต่อๆไปครับ

Thursday, October 19, 2006

บททดสอบจากชีวิตจริงของมิ้งค์กี้บลูอายส์

เรื่องต่อไปนี้เด็กๆควรมีผู้ปกครองร่วมใช้วิจารณญาณในการอ่านนะจ๊ะ


ไม่รู้ว่าคู่แต่งงานคู่ไหนเจอมาแบบมิ้งค์กี้บลูอายบ้าง

การทดสอบจิตใจจากคุณพ่อตา ด้วยวิธีพิสดาร พิลึก พิลั่น

เรื่องมีอยู่ว่า...ก่อนที่มิ้งค์จะได้แต่งงานกะคุณปุ้ย

มิ้งค์ก็ไปมาหาสู่เยี่ยมเยียนคุณพ่อตา-แม่ยายอยู่เป็นประจำ

ซึ่งทั้งสองท่านก็ให้ความรักใคร่เอ็นดูมิ้งค์กี้บลูอายเป็นอย่างดี

ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น..ทั้งมิ้งค์และคุณปุ้ยต่างก็มีความสุขมาก

และเราสองคนก็วางแผนจะแต่งงานงาน...จนกระทั่งมีปัญหานึง

เกิดขึ้นระหว่างเรา...คือน้องสาวของว่าที่ภรรยาของมิ้งค์กี้บลูอาย

น้องปุ่น...ซึ่งเป็นเด็กท่าทางใสๆน่ารักๆคิกขุโนเนะ

อยู่มาวันนึง...น้องเค้าได้บอกกับมิ้งค์ว่าเค้าแอบชอบมิ้งค์

(หุหุหุ...เรานี่มีเสน่ห์จังแฮะ..อิอิอิ)

ซึ่งมิ้งค์เองก็บอกไปว่ามันเป็นไปไม่ได้เนื่องจากมิ้งค์กำลังจะ

แต่งงานกะพี่สาวน้องปุ่น...และหลังจากนั้น..ทุกครั้งที่ไปบ้านคุณปุ้ย

....(ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่า?).....


มิ้งค์มักจะถูกมองด้วยสายตาแปลกๆจากน้องปุ่นอยู่เสมอ

จนกระทั่งวันหนึ่ง...ซึ่งใกล้กับวันกำหนดแต่งงานของมิ้งค์และคุณปุ้ย

น้องปุ่นได้โทรมาหามิ้งค์ที่มือถือ..และบอกว่าคุณปุ้ยให้โทรตามมาตรวจ

ตัวอย่างการ์ดแต่งงานที่กำลังจะส่งพิมพ์...มิ้งค์จึงขับรถไปที่บ้านคุณปุ้ย

พอเข้าบ้านไป..กลับพบว่าทั้งบ้านมีแต่มิ้งค์กับน้องปุ่น

แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร...ถามน้องเค้าว่าไหนล่ะตัวอย่างการ์ดที่จะให้ดู

น้องเค้าก็บอกว่า ไม่มีหรอก...เค้าหลอกให้มิ้งค์มาหาเพราะไม่มีคนอยู่บ้าน

และน้องปุ่นต้องการจะมีอะไรๆกับมิ้งค์



(o_O)!! อึ้งแดกครับพี่น้อง


สมองนิ่งอึ้งไป 7 วิ...ทำอะไรไม่ถูก...ฝ่ายธรรมะกับฝ่ายอธรรมกำลัง

ต่อสู้กันอย่างดุเดือด ดุจดังเกิดมหาสงครามนิวเคลียร์ขึ้นในสมอง

และมิ้งค์ก็หลุดออกจากภวังค์เมื่อน้องปุ่นเข้ามากระซิบว่า...

จะขึ้นไปรอบนห้อง....ถ้ามิ้งค์พร้อมแล้วก็ให้ตามขึ้นไป...หงึๆๆ



ทายซิว่าเกิดไรขึ้น...หุหุหุ....ติ๊กต่อกๆๆๆ



ทันทีที่ได้สติ...มิ้งค์รีบกลับหลังหัน...มุ่งหน้าออกนอกประตูบ้าน

ตรงปรี่ไปที่รถทันที....

แต่ทว่า...ก่อนที่จะเดินถึงรถ....คุณพ่อตาก็เดินออกมาจากไหนไม่รู้

เข้ามากอดมิ้งค์ทั้งน้ำตา..พร้อมกับบอกว่า...

มิ้งค์เป็นคนดีเหลือเกิน...พ่อดีใจแทนปุ้ยจริงๆที่ได้สามี


ที่รักและซื่อสัตย์แบบมิ้งค์....


โอ๊ว...แม่เจ้า...นี่มันการทดสอบอะไรกันนี่...


กรุณานึกถึงเหตุการณ์ในมุมกลับ...



ถ้ามิ้งค์เดินตามขึ้นไปบนห้อง...อาจจะเจอคุณแม่ยายกับคุณปุ้ย

ยืนถือปืนรออยู่....เหอๆๆๆ


นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า.....














ให้เก็บถุงยางไว้ในรถนะจ๊ะ..คุณเพลย์บอยทั้งหลายจ๋า ...



อ่าฮ้อย...อ่าฮ้อย.....แหะๆ ^^''





หมายเหตุ : เรื่องทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นโดยดัดแปลงมาจาก
forward mail อันนึงที่มิ้งค์ไปอ่านเจอ...ตอนนั้นขำขี้แตกขี้แตน
เลยจำไปเล่าให้คุณปุ้ยขำบ้าง...และเมื่อสบโอกาสจึงเอามาเล่าต่อในนี้

หวังว่าเรื่องนี้คงจะไม่ทำลายภาพพจน์แสนดีของมิ้งค์กี้บลูอายหรอกนะ
อ่านขำๆอย่าคิดมากนะจ๊ะ :P

Monday, October 16, 2006

พัฒนาการของลูกน้อย

อัพเดทความสามารถล่าสุดของน้องวินนี่

เมื่อวันอาทิตย์ไปหาหมอมา...ฉีดวัคซีนตามปกติ

ไวรัสตับอักเสบบีเข็มที่ 2 แล้วคุณหมอก็ตรวจสุขภาพทั่วไป

ปรากฏว่าน้องวินนี่มีฝ้าขาวที่ลิ้น และเนื่องจากเป็นมาพักนึงแล้ว

ทายาม่วงก็ไม่หาย คุณหมอเลยให้ยามาทาน



ใช่แล้วครับ...ความสามารถล่าสุดของน้องวินนี่ก็คือ...

แท่น..แทน...แท้นนนน...



การกินยานั่นเอง...



อึ้งละสิครับพี่น้อง...มิ้งค์กี้บลูอายล้อเล่นครับ

เรื่องจิ๊บจ๊อยแค่นี้ไม่มีใครเค้าเอามาอวดกันหรอกครับ ^^''

เรื่องที่จะโม้จริงๆ มันก็สืบเนื่องมาจากยาที่คุณหมอจ่ายมา

นั่นแหละครับ..แหะๆ

อย่างที่ทราบๆกันนะครับ..รสชาดที่เด็กทารกชื่นชอบมากที่สุด

ก็คือรสชาดของน้ำนมแม่ :D

(ซึ่งเมื่อวานซืนน้องวินนี่ดูดไม่หมดขวด คุณพ่อเลยแอบเอามาชิม

และรู้ได้ทันทีว่า พระเจ้าสร้างนมแม่มาเพื่อทารกเท่านั้น

อายุเกิน 2 ขวบอย่าได้แหยมไปกินเพราะมันไม่อร่อยเลยง่ะ >_< )


รสมันจะหวานๆในสัมผัสแรกที่โดนลิ้น...และหลังจากนั้น 0.2 วินาที

เราจะเหม็นคาวแล้วก็รู้สึกว่ามันจืดๆฝาดๆเลี่ยนๆ ปุแล่ม ปุแล่ม :P แหวะ

เอ่อ...นอกเรื่องไปซะไกล..กลับมาที่ความสามารถอันใหม่ของน้องต่อดีกว่า

คือเวลาป้อนยาน้องเค้านะครับ...น้องวินนี่คงจะไม่ชอบรสชาดของยา

น้องวินนี่เลยแอบอมไว้ข้างๆแก้ม...แล้วค่อยๆบุ๋ยทิ้งทีละน้อยๆอ่ะ... -"-

ง๊า....>_< ลูกใครวะเนี่ย...เจ้าเล่ห์ชมัด...

แล้วแบบนี้เมื่อไหร่จะหายละคะคุณลูกขา....

Thursday, October 12, 2006

สุขสันต์วันเกิด...^__^

สุขสันต์วันเกิด น้องอาร์ม สมาชิกคนใหม่ของครอบครัว พี่อี้ และ พี่ตุ๋ม ^__^

ลืมตามาดูโลกเมื่อวานนี้..ลืมตาจริงๆนะ..ตาแป๋วเลย

ขออนุญาตเอารูปน้องมาโชว์หน่อยนะครับ คุณพ่อ-คุณแม่





หน้าตาน้องอาร์ม...ลืมตาได้แล้ว...




มองดูแล้ว เหมือนได้ปากพี่อี้กับจมูกพี่ตุ๋มมารึป่าวหว่า?



ชอบภาพแบบนี้จัง..ให้อารมณ์อบอุ๊น อบอุ่น


ดีจัง..อยากเห็นหน้าน้องมาตั้งนาน...ในที่สุดน้องแตงโมก็มีชื่อจริงๆ


ว่าน้องอาร์ม...มีหน้าตาแบบนี้นี่เอง....







ที่จริงวันนี้...วันเกิดครบรอบ 1 เดือนของน้องวินนี่ด้วย...




แต่มีข่าวดีแบบนี้..ขอแบ่งพื้นที่ในบล็อคอวยพรให้หลานด้วยเลยก็แล้วกัน

ขอให้หลานอาร์มแข็งแรง เป็นเด็กดี เลี้ยงง่ายๆ โตไวๆ เชื่อฟังคุณพ่อ-คุณแม่นะลูกนะ

แล้วไว้มีโอกาสมาเล่นกะน้องวินนี่มั่งเน้อ ^___^

Tuesday, October 10, 2006

คุณแม่ไม่ปลื้ม..แต่คุณพ่อปลื้ม...จบ!!

วลีเด็ดในช่วงนี้(เห็นเค้าว่างั้นกันอ่ะนะ)

คงจะหนีไม่พ้น..." แม่ไม่ปลื้ม...จบ! "

ที่เลียนแบบมาจากนางเอกเจ้าบทบาทในอดีต

ที่ตอนนี้รับบทเป็นคุณแม่เอาแต่ใจ อย่างคุณจารุณี สุขสวัสดิ์

และเพื่อไม่ให้ตก trend นี้...มิ้งค์กี้บลูอายเลยอยากจะเอาเรื่อง

ของคุณแม่น้องวินนี่ที่ คุณแม่ไม่ปลื้ม (แต่คุณพ่อปลื้ม)มาเล่าให้ฟังกัน :D



เรื่องก็มีอยู่ว่า...เมื่อประมาณ อาทิตย์ที่แล้วนั้น

น้องวินนี่คนสวยไม่ยอมอึครับ :P

ทั้งๆที่ปกติแล้วน้องวินนี่จะอึวันละ 2-3 ครั้ง

หลังจากที่ไม่ยอมเรอท้องอืดมาแล้ว

ไปหาหมอมาก็แล้ว...กลับมาจากรพ.ได้ยาขับลมมา

ผายลมปุ๊ดๆ ทั้งวัน แต่ไม่ยอมอึ -''- 1 วันก็แล้ว...



2 วันก็แล้ว....



3 วันก็แล้ว.....-*-



4 วันก็แล้ว >__< ....งื้อ....ไม่ไหวแล้วนะ



นี่เราเป็นลูกใครกันเนี่ย?? คุณพ่อคุณแม่อึกันเก๊ง..เก่ง

แต่ทำไมหนูไม่ยอมอึ๊!!??คุณพ่อคุณแม่ชักจะไม่ปลื้มแล้วนะ!!!

ว่าแล้วหลังจากเพิ่งเจอคุณหมอไป 4 วันก่อน น้องวินนี่

ก็ต้องกลับไปให้คุณหมอเห็นหน้าอีกซะแล้ว...-*-


คำถามแรกที่คุณหมอถามคือ

หมอ : ลูกกินนมผสมรึเปล่าคะ?

แม่ : ปล่าวค่ะ กินแต่นมแม่ :D

หมอ : เอ..งั้นคุณแม่ดื่มชา-กาแฟมั๊ยค๊ะ?

แม่ : ไม่นี่ค๊ะ ... :D

หมอ : แล้วน้องมีอาการเบ่ง ปวดมั๊ยค๊ะ?

พ่อ : ก็มีบ้างนะครับ...เห็นบางทีไม่ยอมนอน เบ่งๆหน้าแดง
แต่เบ่งไม่ออก ซักพักก็หลับไปเอง

หมอ : งั้นวันนี้ลองสวนก้นน้องละกันนะค๊ะ ไม่มีอันตราย
แค่กระตุ้นให้ปวดอึ๊เฉยๆนะค่ะ :)

พ่อ-แม่ : โอเชครับคุณหมอ



ว่าแล้วน้องวินนี่ก็โดนยาเหน็บไป 1 หลอด...ซี๊ด...

แต่น้องวินนี่เก่งจัง..ไม่ร้องซักแอะ...

แค่ทำหน้างงๆ ประมาณว่า...อุ๊ย...เอาไรมาเสียบก้นหนูค๊ะ??


แล้วก็กลับบ้าน...ขณะที่คุณพ่ออุ้มน้องวินนี่อยู่นั้น

ก็สัมผัสได้ถึงไออุ่นๆ ของอินฟราเรดซึมทะลุผ่าแพมเพิร์สออกมา

พร้อมกลิ่นตุๆ....อุ๊ย!!! คุณพ่อเป็นปลื้ม!!น้องวินนี่อึ๊แล้ว!!!

(ให้นึกถึงความดีใจอารมณ์ประมาณโฆษณาเบียร์เชียร์)

แต่กลิ่นก็ไม่ค่อยน่าปลื้มเท่าไหร่ :P หมักหมมมาตั้ง 4 วัน

ด้วยความดีใจซิ่งรถกลับบ้านไปแกะแพมเพิร์สออกมาดู

หวังว่าจะได้เจอแร่ทองคำอร้าอร่ามกองใหญ่รวบยอด 4 วัน

แต่กลับพบเพียงแค่ความว่างเปล่า...น้องวินนี่แค่ฉี่ออกมาเฉยๆ

ดังนั้น...เราจึงได้แต่รอ..รอแล้วก็รอ...

30 นาทีผ่านไป...เดินมาดูลูกอีกที...อ่าว..หลับไปซะแหล่ว -*-

แล้วนี่จะอึ๊ป่าวเนี่ย??ฮึ??

โทรไปถามหมออีกทีหมอบอกว่า 3-4 ชม.ถึงจะอึ

โอเค...งั้นรอต่อ...




3 ชม.ผ่านไป...




ด้วยความอยากรู้อยากเห็น

คุณแม่เลยแอบแง้มผ้าอ้อมออกมาดู...



ตึ่กๆ...ตึ่กๆ...ลุ้นระทึก...




ผ่างๆ!! เหลืองทองอร้า อร่าม :D

เฮ้ๆ ในที่สุดน้องวินนี่ก็อึ๊แล้ว...

คุณแม่บอกว่า...

อ๊า...แม่ไม่ปลื้ม!! เหม็นๆๆๆ

พ่อไปเช็ดก้นให้ลูกซิ!!!

อ๊า...คุณพ่อเป็นปลื้มค่ะคุณลูกขา :D

มามะๆ มาให้พอดอมดม เอ๊ย...ชื่นชม...เอ๊ย..

ล้างก้นให้หนูซะดีๆ...พ่อดีใจจังในที่สุดหนูก็อึ๊ซะที



หลังจากทำความสะอาดให้น้องวินนี่ ท่ามกลางบรรยากาศ

ที่แสนจะแอ็ปปี้ของทุกคนในครัวเรือนเรียบร้อยแล้ว

น้องวินนี่ก็หลับไปอย่างมีความสุข อมยิ้มน้อยๆพอให้คุณพ่อ

ได้ลุ่มหลงในรอยยิ้มทรงเสน่ห์ของลูกสาวหัวแก้วหัวแหวน :D

หลังจากนั้น...พวกเราก็จัดงานฉลอง แห่อึ๊น้องวินนี่ไปรอบบ้าน

ก่อนที่จะเอาไปทิ้งถังขยะ :P





ปล.1 คุณปุ้ยเห็นอึ๊น้องครั้งแรกซึ่งเยอะมาก...ถึงกับบอกออกมาว่า
"ให้เอาผ้าอ้อมผืนนั้นทิ้งไปเลย...ไม่ต้องซักแล้ว...แม่ไม่ปลื้ม..จบ!!" -*-
คิดดูละกันว่าน้องอึ๊เยอะขนาดไหน :D

ปล. 2 หลังจากนั้นไม่นาน...คุณปุ้ยก็นึกขึ้นได้ว่า...เมื่อวันก่อน
ตัวเองแอบไปจิบชานมไข่มุกมานั่นเอง....และนั่นทำให้ปริศนา
ทั้งหมดไขกระจ่าง

ปล. 3 เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ห้ามกินชา กาแฟ หรือว่าโกโก้นะจ๊ะ

Monday, October 09, 2006

my blog was missing....i miss my blog

ลองดูๆ

test

test


โฮ่วๆๆ ใช้ได้แล้ว...เค้ารัก BLOGGER

อ่านกันได้ยังอ่ะ???

เดี๋ยววันนี้จะอัพแล้วนะจ๊ะ

Friday, October 06, 2006

ดูดนมเก๊ง..เก่ง...

มาชมลูกสาวให้ฟังอีกแล้วครับ พี่น้อง ^ ^''

น้องวินนี่จะมีสัญชาตญาณติดตัวมาตั้งแต่เกิดอย่างนึง

คือเรื่องกิน...(ท่าทางจะเหมือนพ่อ ^^'') น้องวินนี่ดูดนมเก่งมาก

พยาบาลชมว่าไม่ต้องสอนเลย...เกิดมาปุ๊บก็ดูดเป็นปั๊บ

แถมท่าดูดก็ถูกต้อง..คืองับหัวนมแม่ให้ลึกๆ คุณแม่ก็จะไม่เจ็บ

หัวนมไม่แตกและกระตุ้นต่อมผลิตน้ำนมอย่างมีประสิทธิภาพ :D





ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจริงๆ :D .... (ห้ามคิดลึกนะครับ)





ด้วยเหตุนี้เอง...ทำให้มีเรื่องที่ทำให้คุณพ่อ-คุณแม่

คุณยาย-คุณย่าได้ตกอกตกใจกันน่ะครับ

คือมีช่วงนึงที่อยู่ดีๆ น้องวินนี่ก็ปากพองบวม

เป็นแบบพองๆน้ำสีขาวๆขุ่นๆบนริมฝีปาก

แล้วปากก็เริ่มลอกออก ลอกออก เป็นแผ่นๆเชียวครับ

แต่พอไปถามคุณหมอ ปรากฏว่า..ไม่เป็นอะไร

เป็นอาการปกติของเด็กที่ดูดนมเก่ง

(เหมือนพ่อ.....ตอนเด็กๆน่ะครับ...อย่าคิดลึก)

เวลาดูจะดูดแรง ทำให้ริมฝีปากเสียดสีรุนแรงไปหน่อย ^^'

นั่นเองครับ...

น่าเสียดายไม่ได้ถ่ายรูปเอาไว้จึงไม่มีรูปมาให้ชม...


เป็นโชคดีของน้องวินนี่และคุณพ่อคุณแม่

ที่น้องวินนี่เลี้ยงง่าย...ยอมกินนมแม่โดยดุษฎี

ไม่อิดออด อยากกินนมผม..เอ๊ย..นมผง :P

ทำให้ได้รับประโยชน์มากมาย เวลาน้องสินนี่หิวนม

จะอ้าปากควานหานมแม่ ส่ายคอไปมา

มองแล้วเหมือนลูกนก ที่รอให้แม่เอาอาหารมาป้อน

ดังนั้น...เวลาที่น้องวินนี่หิวนมก็จะมีอีกสมญานามนึงคือ

...ลูกนกของพ่อ...ลูกนกของแม่....

วันนี้เอารูปมาฝากอีกนิดนึงครับ..

บัลลังค์ของน้องวินนี่

นั่งยิ้มอารมณ์ดี...แต่ดูผ้าอ้อมสิ...

ผืนใหญ๊...ใหญ่

รูปนี้ก็ช๊อบชอบ...เอามาทำ wallpaper ตั้งนาน

น้องคงงงว่า...ใครอ่ะ?เอานิ้วมาจิ้มพุงหนู??

Wednesday, October 04, 2006

ผวา +_+ Vampire คืนชีพ ~>_<~

เคยได้ยินเรื่องราวของผีดิบดูดเลือดกันมั๊ยครับ
สมัยเด็กๆ มิ้งค์จำได้ว่าเคยดูหนังผีเกี่ยวกับ
Vampire หรือ Count Draccula จำได้ว่า
เล่นเอานอนไม่หลับ..ไม่กล้าไปเข้าห้องน้ำคนเดียว
ไปหลายวันเชียว...
ฉากที่น่าระทึกในความทรงจำสมัยนั้นก็มีหลายๆฉาก
เช่นตอนที่มันนอนอยู่ในโลงแล้วอยู่ดีๆก็ลืมตาโพลงออกมา
พร้อมกับดนตรีประกอบที่ชวนให้ตกใจแบบว่า.."ผ่างๆ!!"
หรือฉากที่มันค่อยๆยื่นมาออกไปเปิดฝาโลงเพื่อออกมาหากิน
ในฉากนี้ก็จะมีดนตรีประกอบที่ชวนเขย่าขวัญ(เด็กๆ)อยู่เหมือนกัน
แต่ที่บีบหัวใจสุดๆ คือฉากที่มันย่องมาเงียบๆข้างหลัง...
แล้วก็...งั่บ!! จ๊วบๆๆๆ ดูดเลือดเหยื่อของมัน
(ขณะที่กำลังพิมพ์อยู่นี้....ผู้เขียนกำลังนึกภาพเป็นขาว-ดำ
ดังนั้นเพื่ออัตถรสในการอ่าน...โปรดนึกเป็นขาว-ดำตามนะจ๊ะ)
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
คือที่เล่ามาทั้งหมดนี้เป็นการเกริ่นนำเข้าสู่เรื่องของวันนี้ครับ
เพราะว่าขณะนี้...ที่บ้านมิ้งค์กำลังผวากับเจ้าแวมไพร์น้อย
ที่ชื่อ วินนี่ กันอยู่ครับ ^^''
เนื่องจากน้องวินนี่พักหลังๆมานี่
ชักเริ่มจะงอแง...ตื่นบ่อยขึ้น
แถมเวลาตื่นขึ้นมาที...กว่าจะยอมนอน
จะต้องดูดนม (แม่) แล้วก็อุ้มเดินให้เรอ
แล้วก็กล่อมจนหลับ...ใช้เวลาโดยเฉลี่ยก็ สอง-สาม ชม. แน่ะ....
ทำให้ทั้งคุณแม่และคุณยายพากันเหนื่อยไปตามๆกัน...
อ๊ะๆ..ที่ไม่มีคุณพ่อเพราะคุณพ่อต้องทำงานที่ออฟฟิศนะครับ
อย่าคิดว่าคุณพ่ออู้งานไม่ยอมช่วยเลี้ยงลูกล่ะ ^^''
เวลาที่น้องวินนี่กำลังจะตื่นจากหลับ
จะเริ่มด้วยการส่งเสียง..แอ่ะ..แอ๊..แอ๊ะ..ตามประสาของเค้าอ่ะครับ
แล้วก็จะเริ่มดีดขา...เหยียดมือออกมาข้างหน้าเปะปะ
ชวนให้นึกถึงฉากแวมไพร์เหยียดมือไปเปิดฝาโลง
ก็เลยทำให้น้องวินนี่ได้ฉายาใหม่นอกจากชื่อน้อง ตับบด
แล้วก็ยังมีชื่อเรียกเล่นๆเวลาที่จะตื่นอีกว่า
"แวมไพร์คืนชีพ" อีกชื่อนึงครับ
ตอนนี้ใครๆก็ผวาครับ...กลั๊ว..กลัว..เวลาแวมไพร์น้อยจะคืนชีพ
ปล. ไว้มีโอกาสจะถ่ายรูปตอนแวมไพร์คืนชีพมาให้ดูกันนะครับ ^_^


Act. ที่ 1

Act.ที่ 2

Tuesday, October 03, 2006

Collection ส่วนตัวน้อง Winney

มาดูรูปน้องวินนี่กันอีกซักทีดีกว่า

ตามคำขอของ พี่ตุ๋ม ว่าที่คุณแม่ลูกอ่อนของน้องแตงโม

วันนี้จะเป็นชุดที่ อาวิน กะ อาหลินซื้อให้น้อง Winney

ใส่ออกไปข้างนอกกับคุณพ่อคุณแม่เมื่อวันก่อน

เชิญทัศนา...

1....

ใครดูออกมั่งว่าเป็นลายหมีพูห์


2.....

หนูเคลิ้มจะหลับแล้วค่ะ....~ +__+

3.....

คร่อกกก...ฟรี้....นอนท่าเดียวกะคุณแม่

4.....

พอตื่นมาก็ดิ้นผ้าห่มหลุดหายไปไหนแล้วไม่รู้

5.....

หนูตัวเหลืองค่ะเลยต้องแก้ผ้าไปตากแดดตอนเช้าๆ


วันนี้ตั้งใจอัพบล็อคเอาใจพี่ตุ๋มเลยนะครับเนี่ย...

เมื่อกี้ไปฟังสัมมนาเรื่อง....

"รถไฟฟ้านโยบาย 2 พรรคใหญ่...อันไหนจริงอันไหนหาเสียง"

ที่จัดโดย บริษัททีม (ที่ทำงานมิ้งค์เอง)

ฟังแล้วรู้สึกรักบริษัทขึ้นมาอีกนิดแฮะ...

ไว้ว่างๆจะมาเล่าให้ฟังนะจ๊ะ

Monday, October 02, 2006

REVENGE !!!!

คงจะทราบกันอยู่แล้วว่ามิ้งค์กีบลูอายส์กับ นายกริดยิ้มแย้ม มีความสนิทชิดเชื้อกันมาก

เนื่องจากคบหากันมานานกว่า 10 ปี ตั้งแต่ ม.ต้น นู๊นนน แล้วยังเขียนไดอารี่ด้วยกัน

ทำให้เหมือนกับว่าได้คุยกันแทบทุกวัน ^__^ อย่างน้อยก็โพสต์คุยกันก็ 1 ประโยค :D

แต่จะมีใครรู้มั๊ยว่า...ไอ้การเขียนไดอารี่...บางครั้งก็ก่อให้เกิดความแค้นฝังลึก...

หึหึหึ (แสยะยิ้มชั่วร้าย) ในที่สุด...วันนี้ก็มาถึง

เวลาแห่งการล้างแค้น...

เนื่องจากกริดหลวมตัวไรท์ "รูปแห่งความจริง" ที่ถูกปกปิดเอาไว้ซะนาน

มาให้เมื่อวันก่อน...บางคนอาจจะไม่รู้ว่าไอ้การล้างแค้นวันนี้มีที่มาที่ไปยังไง

มิ้งค์กี้บลูอายส์จึงขอเท้าความหลังสักเล็กน้อยว่าเรื่องนี้มันเกิดจาก

ครั้งหนึ่งกริดยิ้มแย้มได้เคยเอารูปๆนึงมาโพสต์ใน ไดอารี่ ซึ่งได้ทำให้ความ

นิยมในตัวมิ้งค์กี้บลูอายส์นั้นลดฮวบๆๆๆ เนื่องจากในรูปนั้นมันอืดมากกก -*-

ดังนั้น...วันนี้เราจะมาแก้แค้น :P ลัลล๊า...ลัลลา...:D

จากเหตุการณืในวันเดียวกันนั้น...ใครจะรู้ว่ามีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้น :P

เริ่มจากภาพเซ็ตแรก...ซึ่งจะขอตั้งชื่อว่า... "จั่วลม"

รูปที่ 1
ง้างแต่ไกลเลยเห็นมะ?? อิอิอิ


รูปที่ 2
"โอ๊ะ!!หวดเข้าไปแล้วครับ....อิอิอิ"

รูปที่ 3
อาจารย์พละสอนไว้ว่าเวลาตีแล้วต้องมี Follow through

รูปที่ 4
แห่ะๆๆๆ ^ ^''

ยังครับยัง...ยังไม่หมด...แค่นี้มันยังไม่สาแก่ใจมิ้งค์กี้บลูอายส์

ขอแถมอีกซัก 1 ซีรี่ย์นะครับ...ซี่รี่ย์นี้ตั้งชื่อว่า.. "แผนลอบสังหาร"

เริ่มด้วย
รูปที่ 1
ทำทีเป็นเหมือนการเสิร์ฟลูกทั่วไป

รูปที่ 2
"ไอ้มิ้งค์มันถ่ายรูปอยู่ ต้องแอ็คท่าเสิร์ฟให้ดูดี"

รูปที่ 3
ต้องกระโดดเพื่อเพิ่มพลังให้ลูกเสิร์ฟ!!!

รูปที่ 4
ตีมาแล้ว....สังเกตุวิถีของบอลสิครับ ^^''

มันลอยมาทางตากล้อง (มิ้งค์นั่นเอง)

รูปที่ 5
กริดมองดูผลงานที่บอลลอยมาเฉี่ยวหูมิ้งค์กี้บลูอายส์ด้วยใจระทึก
ที่จริงคงกลัวบอลจะกระแทกกล้อง 350 D มากกว่าอ่ะ

โชคดีที่มิ้งค์เก่งเลยทำให้ลูกเสิร์ฟอันไร้พลังของกริดไม่โดนกล้องนะครับเนี่ย...

แห่ะๆแก้แค้นสมใจแล้วก็เผ่นดีกว่า...บ๊ายบาย :P