Minkyblueeyes บล็อคคุณพ่อลูกอ่อน

Thursday, May 29, 2008

ตาสว่าง O.O


เมื่อคืนก่อน...เมื่อวันที่ 27 พ.ค. ดูรายการตาสว่าง

มีแขกรับเชิญเป็นคุณ โสภณ สุภาพงษ์

ท่านเป็นอดีตกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ

ตั้งแต่สมัยที่ ปตท. ยังไม่แปรรูปเป็น บจม.

ได้ทราบข้อมูลบางอย่างที่ทำเอานอนไม่หลับไปเลย

เลยอยากจะเอามาเล่าต่อ เผื่อบางคนไม่ได้ดู

และถ้าเป็นไปได้ อยากจะเป็นกระบอกเสียงเล็กๆ

เผื่อใครอ่านแล้วเกิดความสงสัย หรือคำถามเหมือนมิ้งค์กี้บลูอายส์

ที่อยากจะถามไปถึงผู้มีอำนาจในการกำหนด

นโยบายด้านพลังงาน ซึ่งปัจจุบันนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่า

กลายเป็นวิกฤตของชาติไปแล้ว

อยากให้ช่วยๆกันเผยแพร่ข้อมูลนี้ ให้รับรู้กันทั่วๆ

ประเด็นที่ทำให้มิ้งค์กี้บลูอายส์ตกใจและนอนไม่หลับที่สุด

พอจะสรุปสั้นๆได้ 2-3ประเด็นคือ

1.ก่อนแปรรูป ปตท.เป็น บจม.นั้น ปตท.ได้กำไรปีละ 22000 กว่าล้านบาท

ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขผลกำไรสูงสุดในรอบ 50 ปี ของปตท.

แต่หลังจากแปรรูปปีแรก กำไรได้เพิ่มขึ้นเป็น 55000 กว่าล้านบาท

และในปีต่อๆมาได้เพิ่มเป็น 120000 กว่าล้านบาท

และ 150000 กว่าล้านบาท ถ้าจำไม่ผิดคือปี 2548 หรือ 2549

ที่กำไรสูงเกือบ 200000 ล้านบาท ในเวลาเพียงไม่กี่ปี

นับตั้งแต่แปรรูปเป็น บจม.ในปี 2545 ปตท.สามารถเพิ่มกำไร

ได้เกือบ 10 เท่า โดยให้พวกเราทุกคนต้องแบกรับภาระ

ค่าใช้จ่ายในส่วนของราคาน้ำมันที่แพงลิบลิ่ว T_T

2.คุณโสภณ ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า

ผู้ที่กำหนดราคาน้ำมันในบ้านเรานี้ คือกลุ่มโรงกลั่นน้ำมัน

ซึ่งมีทั้งหมด 7 โรงกลั่น เป็นของเอกชน 2 ราย

และอีก 5 รายเป็นโรงกลั่นในเครือของกลุ่ม ปตท.

ซึ่งผู้ถือหุ้นของปตท.รายใหญ่ๆ ก็คือเหล่าผู้บริหารขององค์กร

ที่รับผิดชอบด้านพลังงานของประเทศ ซึ่งไม่น่าแปลกใจเลย

ที่บุคคลเหล่านี้ จะไม่มาสนใจควบคุมราคาน้ำมันอย่างจริงจัง

เพราะยิ่งปตท.มีกำไรมากเท่าไหร่ หมายถึงมูลค่าหุ้น

ที่พวกท่านเหล่านั้นถืออยู่(ซึ่งซื้อมาในราคาพาร์ 10 บาท)ย่อมมีมูลค่าสูงขึ้น

3.ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ประมาณ $130 US. ต่อบาร์เรล

ตีออกมาเป็นหน่วยที่เราคุ้นเคยจะอยู่ที่ประมาณ 26-27บาทต่อลิตร

ทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่า ส่วนต่างที่เราๆต้องจ่ายอยู่ 38 บาทต่อลิตรนั้น

ส่วนต่าง 11-12 บาทต่อลิตรที่เทียบเป็นเปอร์เซ้นต์ได้ 44%

นั้นมันสมเหตุสมผลที่จะเป็นค่าการกลั่นและค่าการตลาดรึเปล่า??



รายละเอียดอื่นๆ หาดูได้ในรายการตาสว่างตามลิงค์นี้นะจ๊ะ


----> modern nine



แถมท้ายไว้เป็นความรู้เล่นๆว่า $1 US.ต่อบาร์เรล

สามารถเทียบได้เป็นประมาณ 20 สตางค์ต่อลิตร

(1 บาร์เรล = 159 ลิตร ที่อัตราแลกเปลี่ยน 35.25 บาทต่อ $US.)


หลังจากอ่านเรื่องนี้แล้วก็ขอให้นอนหลับฝันดีนะครับ ^ ^''

9 Comments:

  • ดูแล้วรู้สึกห่อเหี่ยวใจที่มีคนกลุ่มนึงแสวงหาผลประโยชน์ จากพี่น้องร่วมชาติ Y_Y

    By Blogger Minkyblue_eye, at 29/5/08 9:44 AM  

  • มิ้งค์เอ้ย...ต้องทำใจกับบ้านเรา ตรงไหนมีผลประโยชน์ จะเจอไอ้พวกนี้หมดแหละ

    ทางที่ดี หลับนอน เอ้ย นอนหลับฝันหวานว่า ให้นักการเมืองไทยตายห่าหมดจะดีกว่า 555

    By Blogger siwawong, at 29/5/08 12:51 PM  

  • http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I6649758/I6649758.html

    แถมๆ

    By Blogger siwawong, at 29/5/08 1:06 PM  

  • โอ๋ๆๆๆๆ

    เค๊าเครียดเรื่องราคาทองมากกว่าง่ะ

    เพราะเค๊าไม่มีรถแล้ว..ไม่ต้องเติมน้ำมัน

    ตอนนี้ เค๊าจะซื้อทอง... มันแพ๊งงงง แพง

    By Blogger babybrown_eye, at 30/5/08 12:19 PM  

  • Dee ja....

    miss u na ja.

    bye

    By Anonymous Anonymous, at 30/5/08 1:04 PM  

  • ต่อไปซื้อรถ ไม่มีตังค์จ่ายค่าน้ำมัน

    By Anonymous Anonymous, at 1/6/08 10:57 PM  

  • นี่ไง พี่ยังกลุ้มอยู่เรยเนี่ย ว่าจะประคับประคองน้องกีกี้ให้อยู่รอดปลอดภัยอีกนานแค่ไหน เพราะวันๆ เอาแต่นั่งกลุ้มว่า จะมีตังค์เติมน้ำมันให้น้องเขาหรือป่าว ? เห่อ...

    เบื่อพวกเห็นแก่ตัว เอาแต่ประโยชน์ส่วนตน รักแต่พวกพ้อง ไม่มองเพื่อนร่วมชาติ น่าจะตายๆไปกับมหันตภัยโลกคราวหน้านี่แล้วล่ะ รออีกนิส

    เออ..ไม่นึกเนอะ ว่ามิ้งค์จะมีเวลามาอัพได เรยไม่ค่อยได้เข้ามาอ่านเรยอ่ะ แต่พี่ก้อไม่ค่อยมีเวลาอัพเหมือนกัน อิอิ ว่าแต่เขา

    แต่ก็อัพนะจ๊ะ .. เพิ่งอัพมาเนี่ย

    By Blogger Chachabella, at 3/6/08 10:13 PM  

  • โห อารายกานนี่ น่าเกลียดมากมาย

    ป๋าขา นู๋เปลี่ยนชื่อไดเปน whitesnoopy นะค่ะ

    By Anonymous Anonymous, at 17/6/08 9:52 AM  

  • กระทู้พันทิพย์ ที่ให้มาเป็นกระทู้ที่ดีมากเลยครับ ทำให้ได้ความรู้ดีครับ เหมือนกับ คุณ สุภาพงศ์ บอกความจริงไม่หมดนะครับ

    อยากให้สังคมไทยเป็นสังคมที่คุยกันด้วยเหตุและผลจังเลยครับ

    By Anonymous Anonymous, at 10/7/08 11:11 PM  

Post a Comment

<< Home